ในวงการการสร้างบ้าน มีไม่กี่รูปแบบที่กำลังถูกพูดถึงกันอย่างล้นหลาม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือรูปแบบสไตล์นอร์ดิก หรือที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Nordic House Style” โดยจุดเด่นของเขาคือความสวยงาม และเรียบง่ายที่สบายตา อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับผู้ที่อยู่อาศัย และนำประโยชน์ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติมาใช้
รูปแบบการแต่งบ้านด้วยสไตล์นอร์ดิกนั้น ตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และเมื่อนำมาปรับใช้กับการสร้างคาเฟ่ จึงออกมาสวยอย่างไม่มีที่ติ อย่างคาเฟ่หลังนี้ที่เป็นสไตล์นอร์ดิก กว้าง 9 เมตร ลึก 5 เมตร เป็นอาคารชั้นเดียวที่สร้างระเบียง พร้อมชั้นดาดฟ้า ฟังก์ชันภายในได้แก่ ห้องรับแขก ห้องครัว และมีห้องน้ำที่สร้างไว้ด้านหลัง ซึ่งนี้มีพื้นที่ใช้สอย 65 ตร.ม. และจบด้วยงบไม่เกิน 1 ล้าน
ผลงานการก่อสร้างคาเฟ่หลังนี้เป็นของ ทีมงานคุณภาพ ช.รัตนศักดิ์ หลังคาที่เป็นทรงจั่ว มุงด้วยเมทัลชีทสีดำ ผนังที่แต่งด้วยสีขาว แต่งสลับด้วยงานไม้ ซึ่งเป็นไม้ฝาเฌอร่าที่ตกแต่งโซนหน้าของอาคาร นอกจากนี้ยังใช้กระจกมากมาย เพื่อให้แสงส่องเข้าไปด้านในได้อย่างเต็มที่
ตามผนังรอบๆตัวบ้าน มีโคมไฟทรงกระบอกสีดำติดตั้งไว้ บันไดที่ขึ้นไปยังดาดฟ้าหรือเทอเรส เป็นบันไดวน ซึ่งทำจากเหล็กทาสีดำล้วน ราวดาดฟ้าใช้เป็นเหล็กตะแกรง เพื่อความปลอดภัยของการใช้งาน
ระเบียงด้านล่าง ปูพื้นด้วยกระเบื้องลายไม้ จุดนี้สร้างโต๊ะบาร์สูง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนั่งรับลม และชมวิวหนองน้ำข้างหน้า
ภายในของร้าน มีพื้นที่กว้าง แต่งด้วยโทนสีขาวที่ดูสบายตา ทั้งกระเบื้องของพื้นที่มีผิวมันวาว ผนังปูนที่ฉาบเรียบไว้ และฝ้าเพดานที่สูงโปร่ง ซึ่งช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ หรือเพิ่มพื้นที่ให้ห้องมีขนาดกว้าง โคมไฟที่ประดับไว้ตามฝ้า ช่างสวยหรู มีเคาน์เตอร์บาร์ที่แต่งด้วยกระเบื้องลายไม้ กับปูนเปลือยขัดมัน
ตรงมุมด้านในเป็นเคาน์เตอร์ครัว ซึ่งปูท็อปด้วยกระเบื้องสีดำ และด้านล่างที่เป็นตู้เก็บของ ตกแต่งรอบๆด้วยกระเบื้องสีขาว ผนังบริเวณนั้นใช้เป็นกระเบื้องสีเทา และมีหน้าต่างบานใหญ่ที่คอยรับแสงให้จุดนี้มีความปลอดโปร่ง
จุดนี้ที่เป็นห้องน้ำ สร้างไว้ภายนอก โดยหน้าห้องติดตั้งอ่างสำหรับล่างมือ พร้อมประดับไฟดาวน์ไลท์ที่ฝ้าเพดาน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับคาเฟ่หลังนี้ ที่สร้างและตกแต่งเป็นสไตล์นอร์ดิก โดยออกมาสวย และน่าเข้าชมเลยทีเดียว ดังนั้นหากใครที่สนใจ และอยากมีคาเฟ่สวยๆแบบหลังนี้ไว้ครอบครอง สามารถติดต่อสอบถามได้จากข้อมูลด้านล่างค่ะ
ขอบคุณที่มา: เฟซบุ๊ก Kanda Chaiyo
